menu Menu
5 articles filed in
เศรษฐกิจโลก
Previous page Next page

เล่นกับไฟ: ทรัมป์กับการถอนเขี้ยว Dodd-Frank

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 โดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่ง Executive Order ชิ้นใหม่เพื่อเริ่มทำการรื้อกฎหมายข้อบังคับทางการเงิน Dodd-Frank ยกใหญ่ในสหรัฐฯ แม้ว่าคำสั่งนี้จะไม่หวือหวาและจะยังไม่มีผลเชิงปฏิบัติที่เร่งด่วนเท่ากับคำสั่งอื่นๆ เช่นการแบนชาวต่างชาติจาก 7 ประเทศตะวันออกกลาง  แต่กฎหมาย Dodd-Frank ถือเป็นกลไกสำคัญของการควบคุมความเสี่ยงและความประพฤติของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างผลกระทบฉับพลันต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจทั่วโลกได้อย่างที่เราเคยเห็นในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เมื่อปี 2008 พูดง่ายๆ คือทรัมป์กำลังเล่นกับไฟ ซึ่งหวือหวาน่าสนุกในระยะแรก แต่ตัวใครตัวมันในระยะยาว บทความนี้จะสรุปอย่างสั้นๆ ว่า 1) Dodd-Frank คืออะไร 2) มีไว้ทำไมตั้งแต่แรกและทำไมถึงจะถูกถอนเขี้ยว และ 3) จุดที่ควรจับตามองต่อไป

Continue reading


สรุป 3 ประเด็นสำคัญจากการประชุม WEF 2017

ผมได้ติดตามความเคลื่อนไหวจากการประชุมเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) 2017 ณ กรุงดาวอสอย่างใกล้ชิด  ซึ่งในปีนี้ทาง WEF ได้จัดวงเสวนาในหัวข้อที่สามารถกระทบความเป็นไปของเศรษฐกิจโลกไว้มากกว่าถึง 400 วงด้วยกัน ตั้งแต่เรื่องความเหลื่อมล้ำไปจนถึงชะตากรรมของโลกาภิวัฒน์ สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่มีเวลาดื่มด่ำกับการดวลพลังสมองของเหล่าผู้นำการเมือง นักธุรกิจ และนักคิดผู้ทรงอิทธิพลที่มาร่วมการประชุมครั้งนี้  ผมคัด 3 เรื่องที่น่าสนใจที่สุดมาเสนอให้อ่านกันในบทความนี้ครับ

Continue reading


เข้าใจ “คลินตันนอมิกส์”

การเลือกตั้งสหรัฐฯ ครั้งนี้เต็มไปด้วยความฉาวโฉ่ ทั้งเรื่องอีเมลลับ เรื่องสุขภาพ เรื่องเหยียดผิว ไปจนถึงเรื่องการปกปิดบันทึกการเสียภาษี แต่สิ่งที่ถูกดราม่าและความอื้อฉาวของการเมืองอเมริกันกลบจนแทบจะมิดคือจะเกิดอะไรขึ้นกับนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ หากฮิลลารี คลินตันชนะการเลือกตั้งครั้งนี้  ซึ่ง ณ วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559  simulation จากเว็บไซต์ fivethirtyeight ทำนายว่าฮิลลารี คลินตันมีโอกาสเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ประมาณ 54.8 เปอร์เซ็นต์

Continue reading


5 ประเด็นเศรษฐกิจโลกรับปีใหม่

โลกของเราย่างเข้าสู่ปีใหม่มาได้ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ก็เกิดอะไรขึ้นมากมายที่ทำให้เวทีเศรษฐกิจโลกสั่นคลอนไปด้วยความกลัวและความกังวล ในอาทิตย์ที่ผ่านมานี้หุ้นในประเทศจีนร่วงลง 11.6 เปอร์เซ็นต์ และมีการใช้ระบบ circuit breaker ปิดตลาดกระทันหันเมื่อวันพฤหัสบดีหลังจากเปิดมาได้ไม่เกิน 15 นาที เพื่อไม่ให้หุ้นร่วงลงไปกว่านั้น  ภาวะแบบนี้ก็ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ภายในอาทิตย์เดียวคนที่ร่ำรวยที่สุด 400 คนของโลกเสียไปราว 194 พันล้านดอลลาร์จากตลาดการเงินที่ผันผวน นอกจากทั้งหมดนี้ยังมีการที่จอร์จ โซรอส กูรูนักลงทุนข้ามชาติที่เคยให้บทเรียนอันเจ็บปวดกับประเทศไทยมาแล้ว ออกมาตอกย้ำความกังวลนี้อีกว่าเขาคิดว่าวิกฤติครั้งหน้าอยู่ไม่ไกลแล้วและมองด้วยว่าปัญหาในการปรับหางเสือของเศรษฐกิจจีนสามารถปะทุขึ้นมาเป็นวิกฤติแบบครั้งเมื่อแปดปีที่แล้วได้ นี่คือแค่อาทิตย์แรกของปีนี้…ยังเหลืออีกตั้ง 300 กว่าวัน ในบทความนี้ผู้เขียนรวบรวมข้อมูลและสรุปประเด็นสำคัญสั้นๆ 5 ประเด็นที่จะมามีบทบาทอย่างมากต่อความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้  ผู้เขียนหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในปีนี้ครับ

Continue reading


อธิบายภาวะ "บอนด์ยีลด์ติดลบ"

เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเราได้เห็นภาวะ “บอนด์ยีลด์ติดลบ” ที่ทำให้หลายคนเกาหัวกันอย่างถ้วนหน้า  ภาวะนี้รุนแรงไม่ใช่เล่น  มีคนวิเคราะห์แล้วว่ากว่า 27% ของปริมาณตราสารหนี้รัฐบาลในกลุ่มยูโรโซนทั้งหมดนั้นเข้าข่ายให้ผลตอบแทนติดลบไปเรียบร้อยแล้ว  ผลตอบแทนของตราสารหนี้รัฐบาลญี่ปุ่นระยะสามปีก็ได้ลงไปติดลบเหมือนกันเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน  น่าประหลาดไหมล่ะครับที่คนเรายอมจ่ายเงินแย่งกันเอาเงินไปให้ญี่ปุ่นยืมทั้งๆ ญี่ปุ่นจริงๆ แล้วเป็นประเทศที่มีอนาคตระยะไกลที่แย่มากๆ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนหนี้รัฐบาลต่อ GDP สูงที่สุด บวกกับมีแนวโน้มชราภาพของประชากรที่ชัดเจน  กรณีของญี่ปุ่นนั้นผู้เขียนพอจะยังเข้าใจได้ว่าญี่ปุ่นจะยังไม่เจ๊งในอีกหลายปี (เหมือนที่เคยวิเคราะห์ไว้ที่นี่) แต่ที่น่าฉงนกว่าคือทำไมผลตอบแทนของตราสารหนี้รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ระยะสิบปีมันถึงลงไปแตะต่ำกว่าศูนย์ได้  โลกนี้มันไม่มีอะไรดีๆ ให้เอาเงินไปลงทุนแล้วฤา?? หรือว่านักลงทุนเข้าสู่สภาวะซึมเศร้ากันหมด มองไม่เห็นโอกาสทำเงินอะไรใดๆ ในอีกสิบปีข้างหน้า?  ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุดอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาคเอกชนของบางบริษัท เช่น GE, McDonald’s, Nestle, Royal Dutch Shell และ Proctor&Gamble ก็เคยตกต่ำกว่าศูนย์หรือกำลังมีแนวโน้มว่าจะลงไปติดลบเช่นกัน บทความนี้จะพูดถึง 3 หัวข้อหลักๆ  1. อธิบายแบบง่ายๆ ว่าอัตราตอบแทนของตราสารหนี้ติดลบนั้นจริงๆ แล้วแปลว่าอะไร  2. อะไรทำให้เกิดภาวะนี้และทำไมนักลงทุนถึงตัดสินใจซื้อ 3. ภาวะแบบนี้บ่งบอกถึงอะไร

Continue reading



Previous page Next page

keyboard_arrow_up