วิกฤตรัสเซีย: เมื่อหมีขาวถูกรังแก
ขณะนี้หมีขาวรัสเซียกำลังโดนซ้อม ทั้งราคาน้ำมันดิ่งเหว ทั้งค่าเงินป่นปี้ แถมยังโดนเตะซ้ำเข้าที่ชายโครงวันนี้ด้วยการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โอบามาประกาศว่าจะกลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นและปลดโซ่ตรวนทางการค้ากับประเทศคิวบาที่เคยทำให้สงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย “ร้อน” และเกือบทำให้เกิดการแลกหมัดนิวเคลียร์ขึ้นมาทันทีในปี 1962 มิหนำซ้ำยังจะมีการซ้ำเข้าที่เบ้าตาหมีขาวอีกทีเมื่อโอบามาลงนามการคว่ำบาตรปิดโลงรัสเซียรอบต่อไปในอาทิตย์นี้ (และมีข่าวฮือฮาบอกว่าลงนามไปแล้วด้วย) ตอนนี้ทั้งโลกกำลังจับตามองชะตากรรมของเศรษฐกิจรัสเซียที่ค่าเงินรูเบิลร่วงลงมากว่า 50% จากช่วงกลางเดือนมิถุนายนปีนี้ (และหล่นลงมากว่า 20% ภายในวันเดียวเมื่อสองวันก่อน) แม้ว่าธนาคารกลางรัสเซียจะได้พยายามสกัดการร่วงของรูเบิลไปแล้วด้วยการขึ้นดอกเบี้ยจาก 10.5% เป็น 17% ก็ตาม เมื่อค่าเงินอ่อนปวกเปียกอย่างฉับพลันและรุนแรงอย่างไม่มีอะไรห้ามได้เช่นนี้ เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดภาวะ “panic” ขึ้นกับทุกฝ่ายไม่ใช่แค่กับนักลงทุนเท่านั้น ซึ่งล่าสุดชาวรัสเซียเองก็ได้เริ่มรู้สึกสัมผัสกับ “ภาวะรูเบิลไร้ค่า” นี้แล้วเมื่อราคาสินค้าทั่วไปเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างกระทันหัน ร้านค้าเริ่มปรับราคาขึ้นรายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจต่างชาติยักษ์ใหญ่ที่ต้องคำนึงถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เช่น แมคโดนัลด์ได้เริ่มปรับราคาขึ้น ในขณะที่บริษัท Apple ก็ได้ยกเลิกการขายสินค้าออนไลน์ให้กับผู้บริโภคในรัสเซียไปเรียบร้อยแล้ว ต้องยอมรับว่าวิกฤตครั้งนี้ส่อแววแย่ค่อนข้างไวและสร้างความหวาดกลัวให้กับมีหลายฝ่ายจนถึงขั้นเริ่มมีคนหยิบยกประเด็นวิกฤตรัสเซียคราวที่แล้วเมื่อปี 1998 ขึ้นมาเปรียบเทียบกับวิกฤตคราวนี้ว่าอาจจะได้เห็นอะไรแย่ๆ ได้ในเร็วๆ นี้ บทความนี้จะสรุปสั้นๆ ในสี่หัวข้อ: 1. วิกฤตนี้เกิดขึ้นจากปัจจัยอะไร 2. อะไรคือจุดเสี่ยงของเศรษฐกิจรัสเซีย 3. บทบาทของศึกแย่งชิงเวทีโลกที่อยู่เบื้องหลังวิกฤตนี้ 4. ทางออกของปูติน
วิกฤตต้มยำกุ้ง แฮมเบอร์เกอร์ หรือ ต้มยำปู?
ภาพลวงตาใหม่
Previous page Next page
Recent Comments