Plated เป็นบริษัทหน้าใหม่ในประเทศอเมริกาที่ส่งวัตถุดิบและวิธีทำอาหารมื้อหรูที่ดีต่อสุขภาพและไม่เหมือนใครผ่านไปรษณีย์
คนปกติฟังไอเดียนี้เข้าไปคงคิดว่านี่เป็นไอเดียยอดแย่ เพราะว่านอกจากจะแพงแล้วยังต้องเสียเวลาลงมือทำอาหารเองอีก สู้สั่งอาหารมาจากร้านอาหารไม่ดีกว่าหรือ ?
แต่ถ้าหากลองทำความคุ้นเคยกับธุรกิจนี้ จะพบว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับธุรกิจนี้คือการหา niche ที่แท้จริงของพวกเขาและการทำ logistics ที่เก่งมาก ๆ เพื่อความสดใหม่ของผักและเนื้อที่มาทางไปรษณีย์
ที่ผมประหลาดใจที่สุดก็คือความสดของผักและเนื้อที่มาทางไปรษณีย์ครับ คนทั่วไปมักต่อต้านไอเดียที่ว่าเราสั่งอาหารทางไปรษณีย์แทนที่จะทำแบบ farm-to-table แต่ผมว่าสิ่งที่มาทางไปรษณีย์ของ Plated นี่แหละครับคือ farm-to-table ดี ๆ นี่เอง
ผมตกใจมากที่มะเขือเทศที่มาในกล่องนั้นสดกว่าที่อยู่ใน supermarket รอบ ๆ บ้านผมเสียอีก ปกติผมไม่เคยชอบทานมะเขือเทศเลย แต่วันนั้นมันอร่อยมากจนต้องยกเว้น
สาเหตุคือ Plated เค้า source ผักและเนื้อจากผู้ผลิต local ใกล้ ๆ ที่ ๆ เราอยู่อาศัย ยกตัวอย่างเช่นผมอยู่เมือง Minneapolis เขาก็จะมี facility อยู่แถว ๆ เมือง Chicago ที่ไม่ไกลกันเกินไปนัก
หลังจากที่ผมลองสั่ง Plated มา 3 ครั้ง (6 มื้อ) ผมคิดว่า Plated กำลังหาลูกค้ากลุ่มที่แคบมากกว่าที่ผมนึกไว้ตอนแรก
ผมมองว่ากลุ่มลูกค้าของ Plated ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าที่โทรสั่ง takeout เป็นประจำ แต่จะเป็นลูกค้าที่มีชีวิตวุ่นวายแต่ยังชอบลงมือทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพและต้องการเรียนรู้วิธีทำอาหารที่ค่อนข้าง exotic ซึ่งใช้เครื่องปรุงหลายชนิดที่เขาไม่คุ้นเคยแต่ใช้ในปริมาณน้อยจนไม่คุ้มที่จะออกจากบ้านไปซื้อมาตุนไว้เอง
ข้อดีของ Plated คือผมได้เรียนรู้วิธีทำอาหารแปลก ๆ จากชาติอื่น ๆ จริง ๆ และได้ลองโดยที่ไม่ต้องแห่ไปซื้อเครื่องปรุงมาหลาย ๆ ขวดทั้ง ๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ใช้อีกหรือไม่ในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องปรุง ผัก เนื้อ ทุกอย่าง pre-portion มาหมดแล้ว เทเอาเลย ไม่ต้องตวง ไม่ต้องวัดอะไรทั้งนั้น เหมาะอย่างยิ่งกับเชฟมือใหม่อย่างผมที่ทำอาหารช้า
ยกตัวอย่างเช่นแซนด์วิชเวียดนามหรือ Bahn Mi เมนูนี้เป็นอะไรที่ผมไม่เคยคิดจะอยากทำ แต่เห็นภาพในเมนูแล้วน่าทานมากเลยลองสั่งมา ปรากฎว่าอร่อยและทำง่ายเหลือเชื่อ ผมจะทำมันอีกในอนาคตแน่นอน
แต่นั่นก็แปลว่า Plated จะต้องคิดค้นสูตรอาหารใหม่ ๆ แปลก ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ หากอัตราการโตของฐานลูกค้าเขาเริ่มชะลอลง
ธุรกิจแบบนี้น่าจะรอดยากในเมืองไทยเพราะร้านอาหารอร่อย ๆ นั้นบ้านเรามีให้เลือกมากมายเหลือเกิน แม้ว่าเราจะสมมุติว่าระบบไปรษณีย์ไทยพัฒนาแล้วก็ตาม
เพื่อน ๆ คิดว่าธุรกิจแบบนี้จะอยู่รอดในตลาดเมืองไทยได้หรือไม่ครับ ?
ไม่ได้ครับ เทรนคนไทยคือ ชอบกินข้าวนอกบ้านและถ่ายรูปลง FB โชเพื่อน 🙂
Communication, Infra & Logistics ต้องแข็งแรงจริงๆ ไม่งั้นทำไม่ได้
แต่ถ้ามองว่าเจาะเป็นแบบเฉพาะกลุ่มจริงๆ ในอนาคตก็อาจ”เวิร์ค”ได้เหมือนกันนะ เพราะคนชั้นกลางของประเทศเราจะมีอายุมากขึ้น ย้ายไปอยู่ชานเมืองตามแนวรถไฟฟ้า เริ่มมีอายุอาจไม่อยากมาเดินเที่ยวตามห้างและมีเวลามากพอจะทำกับข้าวเอง