เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไมนักเศรษฐศาสตร์แทบทุกคนถึงเชิดชูการค้าเสรีทั้งๆ ที่ดูเหมือนว่าคนจำนวนมาก (โดยเฉพาะในโลกตะวันตก) กำลังมีอคติกับแนวคิดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าเรากำลังเผชิญกับภาวะการค้าโลกถดถอยที่แย่ที่สุดตั้งแต่หลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ตั้งแต่ปี 1985 ถึง 2007 ปริมาณการค้าโลกโดยเฉลี่ยแล้วจะโตประมาณสองเท่าของอัตราเติบโตของ GDP โลก แต่เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา รายงานจากองค์กรการค้าโลกและ IMF พบว่าการค้าโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นซบเซาถึงขั้นน่าเป็นห่วงและคาดว่าการค้าโลกปีนี้จะขยายตัวเพียงแค่ 1.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่าอัตราเติบโตของ GDP โลกที่คาดไว้เสียอีก นับเป็นจุดพลิกผันสำคัญของเศรษฐกิจโลก ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้มองไปทางไหนก็จะพบกับการระบาดของทัศนะคติทางลบต่อการค้าเสรี ไม่ว่าจะเป็นการปลุกระดมความเคียดแค้นต่อประเทศคู่ค้าโดยนักการเมืองอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ หรือ ชัยชนะของเสียงโหวตต่อต้านโลกาภิวัตน์ที่เราได้เห็นจากเหตุการณ์ Brexit เมื่อเดือนมิถุนายน ไปจนถึงการเล่นตุกติกเล็กๆ น้อยๆ โดยรัฐบาลหลากประเทศเพื่อการอุดหนุนสินค้าที่ผลิตในประเทศตน และทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่แค่เพียงหมอกควันเพราะข้อมูลจาก Global Trade Alert Database พบว่าระหว่างปี 2009 ถึง 2015 ได้เกิดมาตรการกีดกันทางการค้าขึ้นมากกว่ามาตรการที่ส่งเสริมการค้าเสรีกว่า 3 เท่าตัว และพบอีกด้วยว่าปี 2015 เป็นปีที่มีจำนวนมาตรการกีดกันทางการค้าสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูล จึงเป็นที่น่าสงสัยอย่างยิ่งว่า หากการค้าเสรีดีจริงตามตำราที่พร่ำสอนกันมา ทำไมถึงเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น บทความนี้จะอธิบายอย่างเข้าใจง่ายๆ ว่าการค้าเสรีดีเพราะอะไรและชี้ให้เห็นถึงเหตุผลหลักๆ ที่เป็นชนวนของขบวนการต่อต้านการค้าเสรีในขณะนี้
Previous page Next page
Recent Comments