เคยสงสัยไหม ว่าคนพิการขับรถได้ยังไง ? แล้วในประเทศอเมริกา ถ้าไปจอดทับที่เค้าโดนปรับเท่าไหร่ ?
ถ้าใครเคยอยู่อเมริกามาก่อนจะต้องเคยเห็นป้ายจอดรถสีฟ้าๆแบบด้านล่างเต็มไปหมดแน่นอน
จริงๆแล้วผมพบเห็นสัญลักษณ์คล้ายๆกันนี้หลายครั้งแล้ว ทั้งในเมืองไทยและเมืองนอก แต่การที่ผมไม่รู้จักคนพิการที่ขับรถได้เลยทำให้ผมตอนแรกสงสัยว่าเค้ามีป้ายนี้ไว้ทำไมกัน… ผมก็นึกๆว่า
เอ…ขนาดคนที่ร่างกายสมบูรณ์ขับรถยังจะไม่ค่อยรอดเลย ชนกันทุกวี่ทุกวัน
บางวันเราเหนื่อยๆ เราก็รู้ตัวว่าเราขับไม่แข็งเท่าที่ควร
แล้วคนพิการแบบนั่งรถเข็นอย่างในรูปล่ะเขาทำได้ยังไง!?
แต่ก็คิดได้ว่าป้ายนี้เค้าคงเอาไว้ให้ครอบครัวที่มีคนพิการสามารถจอดรถได้ใกล้ทางเข้าออกอาคารมากขึ้น แล้วก็มีที่จอดกว้างพอให้ประกอบรถเข็นได้มั้ง???
ที่จริงแล้วคนพิการเค้าสามารถขับรถได้เองจริงๆ สอบใบขับขี่ได้จริงๆ ถึงแม้ว่าจะพิการทางแขนขาก็ตาม
ทั้งนี้เป็นเพราะว่ารถของคนพิการเค้าถึงแม้ดูจากภายนอกผิวเผินเหมือนรถปกติ แต่ข้างในจริงๆแล้วเจ๋งมาก มีเบรก”มือ” กับคันเร่งแบบว่าอยู่ในพวงมาลัยเลยก็มี รถบางคันมีทางขึ้นเข้ารถแบบพิเศษที่คนขับไม่ต้องออกจากรถเข็นเลยก็มี!
บางคนอาจจะสงสัยว่าการที่ให้คนพิการขับรถนั้น ปลอดภัยต่อการจราจรทั่วไปหรือไม่ ผมเองยังไม่เจองานวิจัยที่วัดความปลอดภัยของการขับรถที่ดัดแปลงแล้วของคนพิการ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าความทุพพลภาพนั้นมีหลายประเภท เพราะฉะนั้นเราคงสรุปไม่ได้ว่าคน”พิการ”จะขับรถได้ดีหรือแย่กว่าคนทั่วไป แถมคนพิการก็ยังต้องสอบใบขับขี่นะครับ
ถ้าดัดแปลงรถให้เหมาะสมกับตนเองได้แล้ว ความปลอดภัยก็น่าจะขึ้นอยู่กับ สติ สายตา รีเฟล็กซ์ กับความรอบคอบมากกว่า แน่นอนถ้าดัดแปลงรถได้ไม่เหมาะสมหรือมาตรฐานไม่สูงพอก็ไม่ควรขับ เพราะว่ามันจะเป็นอันตรายต่อทั้งตัวคนขับเองและสังคม
แต่นอกจากการดัดแปลงรถจะแพงมากแล้ว คนขับยังอาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเองเพราะว่ารถยนต์บางคันไม่ได้ดีไซน์มาเพื่อความปลอดภัยของคนพิการที่ใช้เครื่องมือดัดแปลงหรือการนั่งบนรถเข็นแล้วขับ
ถ้าวันนึงผมเดินไม่ได้ผมคงอยากช่วยตัวเองได้ ไปไหนมาไหนเองได้ ไม่เป็นภาระใคร ถ้าผมหัดขับรถด้วยมืออย่างเดียวได้ก็คงภูมิใจน่าดู เพราะฉะนั้นถ้าคนพิการมีรถดัดแปลงที่เหมาะสมแล้วผมคิดว่าเค้าก็ควรจะให้เค้าขับรถได้
ล่าสุดผมมีโอกาสขับรถ เลยลองสมมุติว่าผมไม่มีขา และต้องใช้มือเร่งกับเบรครถ ลองไปทำดูครับ แล้วจะเข้าใจว่ามันอาจจะดีกว่าใช้ขาขับอีก!
เมื่อไม่นานมานี้มีกระแสบนเน็ตประนามคนที่เอารถเข้าไปจอดในที่สำหรับคนชราและคนพิการตามห้างต่างๆ ที่อเมริกาเค้าไม่ค่อยจะมีที่กั้นให้ เพราะว่ามันเป็น “วัฒนะธรรม” ขั้นพื้นฐานในประเทศเค้าที่ให้สิทธิ์กับคนทุกคน และค่าปรับเค้าบางรัฐมีตั้งแต่ 3,000 บาทถึง 100,000 บาท (แต่จริงๆแล้วผมคิดว่าสวัสดิการในอเมริกาอาจจะเว่อร์ไปเยอะหลังจากฟังpodcastของ NPR เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว บางคนเอะอะปวดหลังหรือเป็นเบาหวานก็รับสวัสดิการได้…) ถ้าเราไปเผลอจอดอาจจะเป็นเพราะเราไม่คุ้นกับสังคมนี้
แต่ตามห้างไทยบางที่จะมีที่กั้นให้แถมเขียนตัวหนังสือบอกด้วยว่าห้ามจอด การที่คนไทยบางคนยังจะดันเอารถไปจอดนับว่าหน้าด้านที่สุด ขนาดขาเราดีๆจอดไกลๆยังเดินลำบาก แล้วถ้าบางคนเค้าต้องมาจ่ายกับข้าวเองบนรถเข็นจะขนาดไหน
แต่ถึงกระนั้นแล้วก็อย่าไปเหมารวมทุกคนที่ดูเหมือนจะไม่พิการแล้วจอดนะครับ คุณไม่รู้จริงๆหรอกครับว่าเค้าพิการจริงมั๊ยหรือมีใครในรถที่พิการ (แล้วก็ไม่ต้องไปถามนะครับ…เสียมารยาท)
รถสมัยใหม่กับน้ำใจของสถานที่หลายๆแห่งทำให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น แต่ยังอดกงวัลไม่ได้ว่าถึงแม้เทคโนโลยีจะก้าวไปข้างหน้าทุกวันๆ ทำไมจิตใจของคนเราบางคนมันถึงเสื่อมโทรมลงได้อย่างนี้เล่า
Previous Next
บ้านเราอาจมากกว่าไม่มีวัฒนธรรมเรื่องนี้ก็ได้ครับ ขนาดช่องจอดรถผู้พิการหน้าอาคารราชการ ผมก็เห็นกับตาว่ามีมอเตอร์ไซต์เข้าไปจอดถึงช่องละสามคัน ผมเข้าไปดูแล้วน่าจะเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตึกนั้นแหละ คงจอดประจำเลย เรื่องนี้แค่สามัญสำนึกก็น่าจะคิดได้ แล้วมันสะท้อนถึงการทำงานของราชการไทยด้วย อีกที่ที่เห็นประจำคือลิฟท์สำหรับผู้พิการของสถานีรถไฟฟ้า แรกๆไม่ค่อยมีใครกล้าใช้ แต่ตอนนี้มีคนใช้ประจำเหมือนลิฟท์ทั่วไปแล้ว
บ้านเราออกกฎเกณฑ์ข้อบังคับมาก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ เพราะคนของเราพร้อมละเมิดกฎเพื่อประโยชน์ของตัวเองได้ตลอดเวลา สร้างสะพานลอยคนข้ามถนน ยังต้องติดป้ายห้ามข้ามไว้ด้านล่าง ทำรั้วเส้นลวดและปลูกต้นไม้กั้นไว้ที่เกาะกลางถนน แต่มีสะพานไม้มาตั้งให้เดินข้าม! ผมเห็นจริงๆ แต่ไม่กี่วันก็หายไปแล้ว ถ้าทำแล้วไม่มีใครว่าก็จะทำกันเป็นปกติไปเลย
ถ้าคนของเราเคารพคนอื่นเคารพกฎเกณฑ์สังคม เราคงไปได้ไกลกว่านี้มาก
ผมก็คิดอย่างนั้นครับ มันเหมือนกับว่าไม่มีวัฒนธรรมเรื่องนี้อยู่ในสายเลือดเรา กฎหมายไม่มีประโยชน์เลยถ้าคนส่วนมากไม่ได้มีแนวคิดเรื่องนี้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มในการวิจัยสามารถส่งเมล์ติดต่อได้ที่ เมล์ มีคนพิการที่ใช้งานรถในชีวิตประจำวันจริงให้ค่ะ